กรุงเทพฯ 3 ตุลาคม 2566 – ศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติสหรัฐฯ (NSIDC) รายงานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ว่า ขอบเขตน้ำแข็งในทะเลที่ล้อมรอบทวีปแอนตาร์กติกลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหลือเพียง 2.2 ล้านตารางกิโลเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 3.4 ล้านตารางกิโลเมตรถึง 38%
การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกในครั้งนี้ถือเป็นการทำลายสถิติที่ลดลงต่ำสุดก่อนหน้านี้ในปี 2565 และ 2562 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และเป็นการลดลงที่เร็วที่สุดในรอบ 40 ปี
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของมหาสมุทรสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำแข็งทะเลละลายเร็วขึ้น
“การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ดร. จิม โรเบิร์ตส์ หัวหน้าโครงการวิจัยน้ำแข็งทะเลของ NSIDC กล่าว “การลดลงของน้ำแข็งทะเลไม่เพียงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในแอนตาร์กติกเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลกอีกด้วย“
การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในหลายด้าน เช่น ทำให้สัตว์ทะเลบางชนิดสูญพันธุ์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิและน้ำท่วม และทำให้สภาพอากาศโลกแปรปรวนมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกอาจเป็นสัญญาณถึง “หายนะร้ายแรงที่สุดของโลก” เนื่องจากอาจทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และส่งผลให้พื้นที่ชายฝั่งทะเลหลายแห่งถูกน้ำท่วม
ผลกระทบของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกาที่ลดลง
การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในหลายด้าน ดังนี้
- การสูญพันธุ์ของสัตว์ทะเลบางชนิด: สัตว์ทะเลบางชนิด เช่น เพนกวิน แมวน้ำ และวาฬ อาศัยน้ำแข็งทะเลเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร การลดลงของน้ำแข็งทะเลอาจทำให้สัตว์ทะเลเหล่านี้หาอาหารและที่อยู่อาศัยได้ยากขึ้น และอาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ได้
- ความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิและน้ำท่วม: น้ำแข็งทะเลทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันชายฝั่งทะเลจากการปะทะของคลื่น น้ำแข็งทะเลที่ลดลงอาจทำให้คลื่นสามารถทะลุผ่านเกราะป้องกันนี้ได้ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิและน้ำท่วมชายฝั่ง
- ความแปรปรวนของสภาพอากาศโลก: น้ำแข็งทะเลช่วยดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ การลดลงของน้ำแข็งทะเลอาจทำให้โลกร้อนขึ้น และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกที่รุนแรงขึ้น
แนวทางการแก้ไขปัญหา
แนวทางการแก้ไขปัญหาการลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกมี ดังนี้
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก และอาจช่วยหยุดยั้งการลดลงของน้ำแข็งทะเลได้
- พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาน้ำแข็งทะเล: การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาน้ำแข็งทะเล เช่น การสร้างน้ำแข็งเทียมหรือการปลูกสาหร่ายทะเล อาจช่วยชะลอการลดลงของน้ำแข็งทะเลได้
- สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ: ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลก จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานี้
ดร. โรเบิร์ตส์ เตือนว่า การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก และเราจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ หากเราไม่ดำเนินการอะไรเลย โลกของเราจะเผชิญกับหายนะร้ายแรงที่สุด
“การลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติกเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต” ดร. โรเบิร์ตส์ กล่าว “หากเราปล่อยให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดำเนินต่อไป โลกของเราจะเผชิญกับหายนะร้ายแรงที่สุด”
จากข่าวดังกล่าว มีข้อเสนอแนะที่อาจช่วยแก้ไขปัญหาการลดลงของน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติก ดังนี้
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นแนวทางที่สำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิโลก และอาจช่วยหยุดยั้งการลดลงของน้ำแข็งทะเลได้
- พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาน้ำแข็งทะเล: การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาน้ำแข็งทะเล เช่น การสร้างน้ำแข็งเทียมหรือการปลูกสาหร่ายทะเล อาจช่วยชะลอการลดลงของน้ำแข็งทะเลได้
- สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ: ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลก จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหานี้
นอกจากนี้ แต่ละประเทศควรดำเนินมาตรการอื่นๆ
ข่าวสิ่งแวดล้อม – aroundofus.com
รูปภาพ : BBC