AROUNDOFUS.COM

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหว

ความร้ายแรงของแผ่นดินไหว

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหว คืออะไร

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหว หมายถึง ผลกระทบหรือความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว กำหนดได้ โดยความรู้สึกของอาการตอบสนองของผู้คน ของความเสียหายของอาคารสิ่งก่อสร้าง ฯลฯ

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหวจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ

  • ขนาดของแผ่นดินไหว (แมกนิจูด)
  • ความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว
  • ระยะห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว
  • ลักษณะของดินและหินบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
  • ลักษณะของสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

โดยทั่วไป แผ่นดินไหวที่มีขนาดแมกนิจูดตั้งแต่ 7 ขึ้นไป มักทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สิ่งก่อสร้างที่ไม่ได้รับการออกแบบและก่อสร้างอย่างถูกต้องอาจพังทลายได้ แผ่นดินไหวขนาด 9 ขึ้นไป มักก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อพื้นที่กว้างขวาง อาจมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก


เครื่องมือที่ใช้วัดระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหว

ความร้ายแรงของแผ่นดินไหว

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหวสามารถวัดได้โดยใช้มาตราต่างๆ เช่น มาตราริกเตอร์ มาตราเมอร์คัลลี และมาตราชินโดะ เป็นต้น

มาตราริกเตอร์ (Richter magnitude scale)

มาตราริกเตอร์ เป็นมาตราที่ใช้วัดขนาดของแผ่นดินไหว โดยวัดจากความสูงของคลื่นแผ่นดินไหวที่ตรวจได้จากเครื่องมือตรวจแผ่นดินไหว มาตราริกเตอร์แบ่งออกเป็น 10 ระดับ โดยระดับ 0 หมายถึง แผ่นดินไหวที่ตรวจวัดได้โดยใช้เครื่องมือเท่านั้น ระดับ 9 หมายถึง แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหวตามมาตราริกเตอร์

  • ระดับ 0 : แผ่นดินไหวที่ตรวจวัดได้โดยใช้เครื่องมือเท่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน
  • ระดับ 1-2 : รู้สึกได้เฉพาะบางคนที่อยู่นิ่ง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในอาคารชั้นบน สิ่งของที่บอบบาง ประณีต กระจุ๋มกระจิ๋มที่แขวนไว้อาจแกว่งไกวได้
  • ระดับ 3-4 : รู้สึกได้ทั่วไป สิ่งของบนโต๊ะเขย่า หน้าต่างสั่น วัตถุที่วางอยู่บนชั้นอาจตกลงมา
  • ระดับ 5-6 : รู้สึกได้ชัดเจน สิ่งก่อสร้างบางประเภทอาจเสียหายเล็กน้อย
  • ระดับ 7-8 : รู้สึกได้รุนแรง อาคารบางประเภทอาจพังทลาย พื้นดินอาจแตกแยก
  • ระดับ 9-10 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง

มาตราเมอร์คัลลี (Mercalli scale)

มาตราเมอร์คัลลี เป็นมาตราวัดระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว โดยวัดจากความรู้สึกของผู้คน อาการตอบสนองของผู้คน ความเสียหายของอาคารสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น มาตราเมอร์คัลลีแบ่งออกเป็น 12 ระดับ โดยระดับ 1 หมายถึง แผ่นดินไหวที่รู้สึกได้เฉพาะบางคนที่อยู่นิ่ง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในอาคารชั้นบน ระดับ 12 หมายถึง แผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

ระดับความร้ายแรงของแผ่นดินไหวตามมาตราเมอร์คัลลี

  • ระดับ 1 : ไม่รู้สึกได้
  • ระดับ 2 : รู้สึกได้เฉพาะบางคนที่อยู่นิ่ง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในอาคารชั้นบน สิ่งของที่บอบบาง ประณีต กระจุ๋มกระจิ๋มที่แขวนไว้อาจแกว่งไกวได้
  • ระดับ 3 : รู้สึกได้ทั่วไป สิ่งของบนโต๊ะเขย่า หน้าต่างสั่น วัตถุที่วางอยู่บนชั้นอาจตกลงมา
  • ระดับ 4 : รู้สึกได้ชัดเจน สิ่งก่อสร้างบางประเภทอาจเสียหายเล็กน้อย
  • ระดับ 5 : รู้สึกได้รุนแรง อาคารบางประเภทอาจพังทลาย พื้นดินอาจแตกแยก
  • ระดับ 6 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง
  • ระดับ 7 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง
  • ระดับ 8 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
  • ระดับ 9 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
  • ระดับ 10 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง

มาตราชินโดะ (Shindo)

มาตราชินโดะ เป็นมาตราส่วนคลื่นไหวสะเทือนที่ใช้ในญี่ปุ่นและไต้หวันเพื่อวัดระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว โดยใช้หน่วยวัดเป็น ชินโดะ (Shindo) ซึ่งแปลตามความหมายคือ “ระดับของการสั่นสะเทือน

ระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหวตามมาตราชินโด

  • ระดับ 0 : แผ่นดินไหวที่ตรวจวัดได้โดยใช้เครื่องมือเท่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน
  • ระดับ 1 : รู้สึกได้เฉพาะบางคนที่อยู่นิ่ง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในอาคารชั้นบน สิ่งของที่บอบบาง ประณีต กระจุ๋มกระจิ๋มที่แขวนไว้อาจแกว่งไกวได้
  • ระดับ 2 : รู้สึกได้ทั่วไป สิ่งของบนโต๊ะเขย่า หน้าต่างสั่น วัตถุที่วางอยู่บนชั้นอาจตกลงมา
  • ระดับ 3 : รู้สึกได้ชัดเจน สิ่งก่อสร้างบางประเภทอาจเสียหายเล็กน้อย
  • ระดับ 4 : รู้สึกได้รุนแรง อาคารบางประเภทอาจพังทลาย พื้นดินอาจแตกแยก
  • ระดับ 5 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง
  • ระดับ 6 : รุนแรงมาก อาคารส่วนใหญ่พังทลาย พื้นดินอาจแยกตัวเป็นรอยกว้าง เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง

การเตรียมความพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหว

ความร้ายแรงของแผ่นดินไหว

การเตรียมความพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหว จะช่วยให้สามารถลดผลกระทบจากแผ่นดินไหวได้ โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น

แผ่นดินไหวสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ มากมาย

  • ความเสียหายต่อสิ่งก่อสร้าง แผ่นดินไหวสามารถทำให้สิ่งก่อสร้างพังทลายได้ สิ่งก่อสร้างที่ไม่ได้รับการออกแบบและก่อสร้างอย่างถูกต้อง อาจพังทลายได้ง่ายกว่า
  • ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน แผ่นดินไหวสามารถทำให้โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน ท่อระบายน้ำ เสียหายได้ ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการสัญจรและให้บริการสาธารณูปโภค
  • ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม แผ่นดินไหวสามารถทำให้แผ่นดินแยกตัวเป็นรอยกว้าง ทำให้เกิดหลุมยุบหรือน้ำท่วมได้ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย
  • ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แผ่นดินไหวสามารถทำให้ผู้คนเสียชีวิตและบาดเจ็บได้ ในกรณีที่อาคารพังทลายหรือเกิดการตกจากที่สูง

การป้องกันและบรรเทาภัยจากแผ่นดินไหว

  • สร้างบ้านเรือนให้แข็งแรง บ้านเรือนควรได้รับการออกแบบและก่อสร้างอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้
  • เตรียมความพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหว ควรจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็น เช่น อาหาร น้ำดื่ม ไฟฉาย ยารักษาโรค เป็นต้น ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : แผ่นดินไหว

แหล่งที่มา :
https://th.wikipedia.org/wiki/มาตราริกเตอร์
https://www.dmr.go.th/en/ความร้ายแรงของแผ่นดินไหว/