AROUNDOFUS.COM

ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อน ญี่ปุ่นสร้างความกังวลไปทั่วเอเชียประชาชนไม่กล้ากินซูชิและอาหารทะเล

ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อน

ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อน จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อน

รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป น้ำดังกล่าวถูกบำบัดแล้ว แต่ยังคงมีปริมาณ Tritium สารกัมมันตรังสีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด

การปล่อยน้ำนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ดำเนินการศึกษาและตรวจสอบอย่างรอบคอบเป็นเวลาหลายปี โดยระบุว่าเป็นวิธีเดียวที่จะกำจัดน้ำปนเปื้อนจำนวนมากที่กักเก็บอยู่ภายในโรงไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจนี้ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มชาวประมงและนักสิ่งแวดล้อมทั่วโลกที่กังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้คน

ผลกระทบของการปล่อยน้ำปนเปื้อน

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า Tritium เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีครึ่งชีวิตสั้น ประมาณ 12 ปี จึงมีโอกาสน้อยที่จะสะสมในร่างกายมนุษย์หรือสัตว์น้ำ แต่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น แพลงก์ตอน

นอกจากนี้ น้ำปนเปื้อนที่ปล่อยลงสู่มหาสมุทรอาจทำให้ปริมาณ Tritium ในน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลอื่นๆ ในระยะยาว

ชาวจีนแห่กักตุนเกลือทะเล ผู้เชี่ยวชาญกังวลญี่ปุ่นปล่อยน้ำนิวเคลียร์ การเริ่มต้นปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น สร้างความกังวลไปทั่วเอเชีย ประชาชนไม่กล้ากินซูชิและอาหารทะเล ส่วนชาวจีนแห่กักตุนเกลือทะเล

ทางออกอื่นในการกำจัดน้ำปนเปื้อน

นอกจากการปล่อยน้ำสู่มหาสมุทรแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นๆ ในการกำจัดน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ เช่น การระเหยน้ำ เก็บน้ำไว้เป็นน้ำใต้ดิน หรือแปรรูปน้ำให้กลายเป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม ทางเลือกเหล่านี้ยังมีข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายสูง ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกที่จะปล่อยน้ำสู่มหาสมุทร ซึ่งเป็นทางเลือกที่ประหยัดและสามารถทำได้ทันที

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. อะไรคือน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ?

น้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะคือน้ำที่ใช้ในการระบายความร้อนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลังจากเกิดภัยพิบัติสึนามิในปี 2554 น้ำดังกล่าวปนเปื้อนด้วยสารกัมมันตรังสี เช่น Tritium, Cesium-134 และ Cesium-137

2. รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจปล่อยน้ำปนเปื้อนสู่มหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างไร?

รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจปล่อยน้ำปนเปื้อนสู่มหาสมุทรแปซิฟิกหลังจากศึกษาและตรวจสอบอย่างรอบคอบเป็นเวลาหลายปี โดยระบุว่าเป็นวิธีเดียวที่จะกำจัดน้ำปนเปื้อนจำนวนมากที่กักเก็บอยู่ภายในโรงไฟฟ้า

3. น้ำปนเปื้อนที่ปล่อยลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกจะมีผลกระทบอย่างไร?

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า Tritium เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีครึ่งชีวิตสั้น ประมาณ 12 ปี จึงมีโอกาสน้อยที่จะสะสมในร่างกายมนุษย์หรือสัตว์น้ำ แต่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น แพลงก์ตอน
นอกจากนี้ น้ำปนเปื้อนที่ปล่อยลงสู่มหาสมุทรอาจทำให้ปริมาณ Tritium ในน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลอื่นๆ ในระยะยาว

4. ยังมีทางเลือกอื่นในการกำจัดน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะหรือไม่?

นอกจากการปล่อยน้ำสู่มหาสมุทรแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นๆ ในการกำจัดน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ เช่น การระเหยน้ำ เก็บน้ำไว้เป็นน้ำใต้ดิน หรือแปรรูปน้ำให้กลายเป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม ทางเลือกเหล่านี้ยังมีข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายสูง ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเลือกที่จะปล่อยน้ำสู่มหาสมุทร ซึ่งเป็นทางเลือกที่ประหยัดและสามารถทำได้ทันที

5. ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะหรือไม่?

ผู้เชี่ยวชาญจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุว่า ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ แต่ผลกระทบจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากประเทศไทยอยู่ห่างจากญี่ปุ่นมาก

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีการออกประกาศเตือนประชาชนหากมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ

ข่าวสิ่งแวดล้อม : around of us
แหล่งข่าวที่นำมาอ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/